ฝังสี เทคนิคการรักษาที่ตอบโจทย์ปัญหา ช่องคลอดดำ ช่องคลอดคล้ำ ซึ่งเป็นปัญหาที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ คนต้องเจอ และต้องบอกเลยว่าแม้จะเป็นปัญหาของจุดซ่อนเร้น แต่ก็สามารถทำให้สาว ๆ สูญเสียความมั่นใจไปตาม ๆ กัน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าปัญหาจิมิมีสีคล้ำ ดูไม่เป็นธรรมชาติเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ ที่ผู้หญิงทุกคนสามารถเผชิญได้ แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าผู้หญิงแล้ว ความงามเป็นเรื่องที่สำคัญ และจำเป็นต้องงามในทุก ๆ ส่วน แม้จะเป็นจุดซ่อนเร้นดังกล่าวก็ตาม
“ฝังสี” เทคนิคแก้ปัญหา “จิ๋มคล้ำ” ที่สาว ๆ ควรรู้จัก
สำหรับเทคนิคการฝังสีนั้น เป็นหัตถการเฉพาะด้านที่ตอบโจทย์โดยตรงให้กับผู้ที่มีปัญหาช่องคลอดสีดำ สีคล้ำ ดูไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากการฝังสีจะเป็นการใช้เครื่องมือฝังสีลงไปตรงบริเวณดังกล่าวโดยตรง นั่นจึงทำให้ผลลัพธ์สามารถเป็นไปตามที่คาดหวังอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเข้ารับการฝังสีน้องสาว คุณผู้หญิงทุก ๆ คนต้องทราบก่อนว่าต้นตอของปัญหาหาจิมิดำ จิมิคล้ำ นั้นเกิดจากอะไรกันแน่ และก่อนเข้ารับบริการต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง Rejavoo Clinic มีคำตอบมาฝากแล้วค่ะ ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน
จิ๋มคล้ำ เกิดจากอะไรได้บ้าง?
การมีจิมิดำ ถือว่าเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ ไม่ถือว่าเป็นความผิดปกติ ซึ่งเม็ดสีเมลานินในผิวหนังจะถูกถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมแบบรุ่นต่อรุ่น ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวกำหนดสีน้องสาวและสามารถเทียบได้จากสีผิว สีของหัวนมและสีของริมฝีปาก
ส่วนปัจจัยอื่น ๆ นั้นก็มีส่วนทำให้จิมิดำได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีความผิดปกติ ดังนั้นสาวๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจไปเลย การมีจิมิดำนั้นไม่ได้ส่งผลเสียแก่ร่างกายแต่อย่างใด ยังไงก็ตาม เรื่องความสวยงามเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร แม้การที่จิมิมีสีที่คล้ำกว่าปกติจะไม่ได้เป็นอันตราย แต่ก็มีน้องสาวที่มีสีชมพูดูสดใสย่อมดีกว่า เพราะดูสุขภาพดีกว่าด้วย ฉะนั้น หากเกิดปัญหานี้มีวิธีแก้ไขยังไง และดูแลตัวเองยังไงดี มาดูไปพร้อม ๆ กัน
สาเหตุที่ทำให้ น้องสาวคล้ำ ไม่สดใส เกิดจากอะไรได้บ้าง?
ผิวบริเวณน้องสาวโดยทั่วไปแล้วจะมีสีเข้มความผิวหนังบริเวณอื่น เนื่องจากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศหญิง และเมื่อมีเพศสัมพันธ์ สีผิวบริเวณนั้นก็จะเข้มขึ้นตามโทนสีผิวของสาวๆ อย่างเช่นในสาวผิวขาวอมชมพู ก็อาจจะมีสีอมแดงหรือโทนชมพู่มะเหมี่ยว ในสาวผิวน้ำผึ้งก็อาจจะมีสีเข้มเกือบคล้ำก็เป็นได้ โดยสาเหตุหลักในการเปลี่ยนสีนั้นเกิดได้จาก
- การผ่านการคลอดบุตร
- ภาวะอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวที่มากขึ้น
- เกิดจากการเสียดสีของผิวหนังกับนริเวณต้นขา
- การระคายเคืองจากครีมกำจัดขน การโกนขน
- วัยที่สูงขึ้น ทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงมีการเปลี่ยนแปลง
- เกิดการเสียดสีจากกิจกรรม หรือ เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไป
- การระคายเคืองจากสารเคมีในน้ำยา สบู่ ที่ใช้ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น
- ความอับชื้นจากเหงื่อ ซึ่งความเป็น กรด ด่าง ส่งผลทำให้สีผิวเปลี่ยนไป
ซึ่งการเปลี่ยนสีของน้องสาวต้องบอกเลยว่า หากสังเกตุพบว่าสีไม่ได้ผิดเพี้ยนไปจากสีของริมฝีปากมากนัก ก็นับเป็นเรื่องปกติ รวมทั้งไม่มีกลิ่น ตกขาวเปลี่ยนสี หรือมีอาการคัน แสบ ระคายเคืองน้องสาว ก็ยังไม่นับเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถึงอย่างไร สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการใส่บิกินี่ หรือมีความไม่มั่นใจ ก็สามารถเข้ามารับคำปรึกษา หรือแก้ไปเรื่องสีผิวคล้ำบริเวณน้องสาวได้
จิ๋มคล้ำเพราะมีเซ็กซ์ จริงมั้ย ความเชื่อนี้จริงหรือมั่วกันแน่?
ต้องบอกก่อนว่า นอกจากใบหน้าและรูปร่างที่สวยงามแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สาวๆ มักเป็นกังวล หากเกิดปัญหาขึ้นมาบางครั้งก็ไม่กล้าบอกใคร รวมถึงไม่กล้าที่จะไปพบหมอ เพราะความอาย ปัญหาที่ว่าก็คือปัญหาเรื่องอวัยวะเพศหญิง หรือ “จิมิ” หรือ “น้องสาว” ตามที่หลาย ๆ คนเรียกกัน ดังนั้น ในวันนี้เราจะมาดูกันว่าความเชื่อเรื่องสีของจิมิที่คล้ำลงเกี่ยวข้องกับการมีเซ็กซ์มั้ย หากมีความเกี่ยวข้องแล้ว เราต้องดูแลตนเองยังไงให้ถูกวิธีบ้าง ซึ่งจะมีข้อมูลยังไง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ไขข้อส่งสัย จิ๋มคล้ำ จิ๋มดำ เพราะมีเซ็กซ์บ่อย จริงหรือ?
ตามธรรมชาติผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศจะมีสีที่คล้ำกว่าผิวปกติ เพราะมีเม็ดสี หรือ เมลานินที่มากกว่า สีของน้องสาวมักจะเป็นไปตามพันธุกรรม สังเกตได้ง่ายจากสีผิว สีของหัวนม สีริมฝีปากเป็นอย่างไร สีของน้องสาวมักจะเป็นแบบนั้น คนที่ผิวขาว ก็มักมีแนวโน้มที่น้องสาวจะเป็นสีชมพู คนที่ผิวคล้ำหรือผิวสองสี โอกาสที่น้องสาวจะมีสีคล้ำก็จะมากกว่า นอกจากเม็ดสีและพันธุกรรมแล้ว สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้น้องสาวมีสีคล้ำมาจาก อายุที่มากขึ้น น้ำหนักตัวที่มากเกินไป การคลอดบุตร การเสียดสีของผิวหนังบริเวณขาหนีบกับอวัยวะเพศ หรือการเสียดสีของกางเกงในกับอวัยวะเพศก็ทำให้น้องสาวมีสีคล้ำได้
ฝังสีน้องสาว บริการจาก Rejavoo Clinic เพิ่มความสดใส เพิ่มความมั่นใจให้สาว ๆ ได้มากขึ้น
สำหรับการ “ฝังสี” นั้นเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่กำลังได้รับความนิยมในคุณผู้หญิงหลาย ๆ คน รวมถึงเป็นนวัตกรรมที่หลายคลินิคเปิดให้บริการแล้ว โดยเทคนิคการฝังสีจิมินั้นคือการการใช้เครื่องมือลงสีไปที่บริเวณที่ต้องการ ซึ่งผลลัพธ์จะให้ความเป็นธรรมชาติและรวดเร็วทันใจสำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการฝังสีน้องสาวเป็นเทคนิคที่ค่อนข้างเฉพาะทาง ดังนั้น ควรเข้ารับบริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยด้วย
ก่อนและหลังที่” ฝังสี” ต้องเตรียมตัวและดูแลน้องยังไงบ้าง ?
สำหรับการเข้ารับบริการฝังสีกับ Rejavoo Clinic นั้น ผู้เข้ารับบริการต้องทราบรายละเอียดทั้งการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการและการดูแลตนเองหลังเข้ารับบริการด้วย ซึ่งมีรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
ก่อนทำ
- เช็คให้ชัวร์ว่าไม่มีประจำเดือน ถ้าหากอยู่ในช่วงรอบเดือบควรรอให้หมดก่อน 5-7 วันแล้วถึงมาทำได้ค่ะ
- โกนขนน้องจิมิมาให้เรียบร้อยก่อนเข้ารับบริการ
หลังทำ
- ไม่แกะไม่เกา จนกว่าจะหลุดลอกเอง
- โดนน้ำได้แต่ต้องรีบเช็ดให้แห้ง (อาบน้ำล้างน้ำเปล่าห้ามโดนสบู่ 7 วัน)
- มีเพศสัมพันธ์ได้ปกติ แต่ห้ามเลียบริเวณจิมิ (เสี่ยงต่อการติดเชื้อ)
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ หรือดูแลตัวเองหลังเข้ารับบริการก็ตาม ผู้สนใจบริการฝังสีต้องเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์อย่างละเอียดจะดีที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงทราบแนวทางการรับมือหากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ด้วย
“ฝังสีน้องสาว” ที่รีจาวูคลินิก ดียังไง ?
คลินิกของเราเป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความสวยความที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณ ด้านการกระชับตามจุดต่าง ๆ และหัตถการฉีดใบหน้า ซึ่งเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล
สำหรับบริการฝังสีช่องคลอดนั้น รีจาวูของเรามีมาตรฐานอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น…
- ผลลัพธ์ที่เปลี่ยนทันทีหลังทำ ปรับสีดำคล้ำให้ดูชมพูขึ้นแบบธรรมชาติ
- ใช้เทคนิคพิเศษเฉพาะของคลินิก ปรับสีน้องสาวของลูกค้ามาแล้วมากกว่า 4 ปี
- สีที่ใช้ปลอดภัยได้มาตรฐานเป็นสีออแกร์นิค ไม่อันตราย
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ ทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
- ดูแลโดยผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำมามากกว่า “หมื่นเคส”
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการในทุก ๆ บริการของเรา ได้รับความประทับใจและปลอดภัยจากทาง Rejavoo Clinic ให้ได้มากที่สุดด้วย