“ฉีดฟิลเลอร์” หัตถการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยการหัตถการประเภทนี้มีส่วนช่วยในการเติมเต็มสำหรับผิวหนังรวมถึงความบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างตรงจุดและเห็นผลได้ทันที โดยนอกจากจะนำฟิลเลอร์มาฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้าแล้ว ก็ยังมีฟิลเลอร์หลากหลายยี่ห้อให้ผู้เข้ารับบริการได้เลือกอีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฟิลเลอร์จะเป็นสารเติมเต็มที่ได้รับความนิยม

ซึ่ง Rejavoo Clinic ของเราก็เป็นคลินิกด้านความงามที่เปิดให้บริการหัตถการนี้เช่นกัน เราจึงตั้งใจที่จะนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่ผู้สนใจต้องทราบก่อนเข้ารับบริการเพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำข้อมูลไปพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเข้ารับบริการได้ ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ตามมาดูไปพร้อม ๆ กัน

บริการฉีดฟิลเลอร์

ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร ดียังไง ทำไมหลาย ๆ คนจึงนิยมหัตถการนี้?

จากที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า “ฟิลเลอร์” นั้นสามารถนำมาฉีดได้หลาย ๆ บริเวณบนใบหน้า อีกทั้งยังมีหลายหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองที่ผู้สนใจควรทราบถึงรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการให้บริการ รวมถึงการเลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะกับบริเวณที่ต้องการฉีกและตนเองด้วย ซึ่งเบื้องต้น ข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ที่ทุกคนควรทราบ จะประกอบด้วย…

ฟิลเลอร์ คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA ช่วยเติมเต็มหรือเสริมชั้นในผิวหนังและใต้ผิวหนัง ที่ช่วยลดและแก้ไขปัญหาผิว ริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่าง ๆ ของใบหน้า ให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ กระชับ เปล่งปลั่งนั่นเอง

ฟิลเลอร์เหมาะกับใครบ้าง

แม้ฟิลเลอร์นั้นจะเป็นสารเติมเต็มที่ดูไม่ได้มีความพิเศษอะไรมากนัก แต่ต้องบอกเลยว่ามันสามารถตอบโจทย์ให้กับใครหลาย ๆ คนเป็นอย่างดี เช่น…

  • ผู้ที่ต้องการแก้ไขปรับแต่งรูปหน้า เช่น เติมริมฝีปาก ร่องแก้ม และยังช่วยทำให้แก้มดูตอบได้
  • ผู้ที่มีปัญหากังวลเรื่องรูขุมขน หลุมสิวบนใบหน้า
  • ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าให้กลับมาคงความอ่อนเยาว์ สดใส เปล่งปลั่ง
  • ผู้ที่มีปัญหาผิว ต้องการลดและแก้ไขปัญหาริ้วรอยร่องลึก บริเวณต่างๆ ของใบหน้า เช่น หน้าผาก รอบดวงตา ร่องลึกมุมปาก

ซึ่งนี่เป็นเพียงผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีผู้ที่ประสบปัญหาอีกหลายประการที่สามารถแก้ไขด้วยการฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้ได้ ซึ่งสามารถสอบถามกับแพทย์ได้โดยตรง

ฟิลเลอร์ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

หลาย ๆ คนคงทราบแล้วว่าฟิลเลอร์นั้นสามารถฉีดได้หลายบริเวณบนใบหน้า แต่สำหรับบางคนอาจจะทราบแค่ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ใต้ตา ฯลฯ ซึ่งแท้จริงแล้วฟิลเลอร์สามารถฉีดได้อีกหลายบริเวณด้วยกัน เช่น…

ฟิลเลอร์ขมับ

เติมเต็มใบหน้าให้สวย อ่อนเยาว์ ดูมีมิติ

ฟิลเลอร์แก้ม 

แก้มตอบ ใบหน้าเล็กลง ไขมันแก้มลดลง

ฟิลเลอร์ใต้ตา 

ลดปัญหารอยดำ ร่องลึก ถุงใต้ตาเรียบตึงขึ้น

ฟิลเลอร์ปาก

เติมเต็มร่องปากให้ดูอวบอิ่ม ยกมุมปากให้เป็นทรงสวย

ฟิลเลอร์คาง 

ปรับรูปหน้า ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ กรอบหน้าคมชัด เหนียง, คาง 2 ชั้นลดลง

นอกจากนี้ ยังมีฟิลเลอร์สำหรับฉีดเพื่อปรับให้สุขภาพผิวดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คืนความอ่อนเยาว์ ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง อิ่มเอิบขึ้นทันที ซึ่งก็ได้รับความนิยมไม่แพ้ฟิลเลอร์สำหรับเติมเต็มส่วนอื่น ๆ เลย

ฟิลเลอร์อันตรายไหม หากฉีดมากไปจะส่งผลข้างเคียงอะไรรึเปล่า?

โดยปกติแล้ว การฉีดฟิลเลอร์นั้นเป็นหัตถการที่ปลอดภัย เพราะ  Hyaluronic Acid หรือ ฟิลเลอร์ นั้นเป็นสารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองจาก US FDA หรือ องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกาว่ามีความปลอดภัยและนิยมนำมาใช้ในวงการการแพทย์และความสวยความงามอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้การฉีดฟิลเลอร์จะไม่มีอันตราย แต่เราก็ต้องเฝ้าระวัง “ฟิลเลอร์ปลอม” จากคลินิกปลอมหรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานด้วย เพราะมันอาจส่งผลอันตรายต่อร่างกายของเรามากกว่าที่คิด เนื่องจากส่วนใหญ่แล้วฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ เมื่อฉ๊ดเข้าไปอาจให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย และจำเป็นต้องฉีดสารสลายฟิลเลอร์เข้าไปหรือหากมีอาการรุนแรงมาก ๆ ก็ต้องทำการผ่าตัดเพื่อขูดฟิลเลอร์ปลอมดังกล่าวออกนั่นเอง

ฉีดฟิลเลอร์เจ็บไหม

สำหรับหัตถการนี้ ผู้เข้ารับบริการจะไม่มีอาการเจ็บในขณะที่เข้ารับบริการ เนื่องจากแพทย์ใช้ยาชาก่อนการฉีด ขณะฉีดอาจจะรู้สึกตึงที่ใบหน้าบ้าง หลังจากยาชาหมดฤทธิ์จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย และรู้สึกแสบๆ คันๆ บริเวณผิว แต่อาการเหล่านี้จะหายไปเองในเวลาไม่กี่วัน

การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง?

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญก่อนเข้ารับบริการ คือผู้ที่สนใจอยากฉีดฟิลเลอร์ต้องทราบก็คือ การเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการ ซึ่งแม้จะไม่ได้เป็นการผ่าตัดใหญ่ แต่การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ก็สำคัญไม่แพ้กัน

ซึ่งก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ผู้เข้ารับบริการควรเตรียมตัวดังนี้…

  1. งดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs หรือวิตามินต่าง ๆ ก่อนเข้ารับบริการประมาณ 1 สัปดาห์  เนื่องจากเป็นกลุ่มยาที่อาจส่งผลให้บวมง่าย ช้ำง่าย
  2. งดแอลกอฮอล์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง
  3. งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์
  4. งดการทำเลเซอร์ต่าง ๆ ก่อนฉีดฟิลเลอร์
  5. ในกรณีที่มีโรคประจำตัว ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเข้ารับบริการ
  6. หากมีอาการผิดปกติ เช่น ผิวหนังอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อ ควรแจ้งแพทย์ทันที

ซึ่ง 6 ข้อนี้เป็นการเตรียมตัวเบื้องต้นที่สำคัญ ฉะนั้นควรทำตามอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ให้เป็นไปตามที่คาดหวัง

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์

สำหรับขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์นั้น ในแต่ละคลินิกจะมีขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับขั้นตอนหลัก ๆ นั้นประกอบด้วย…

  • ทำการ Consult กับแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและวางแผนก่อนฉีดให้ครอบคลุมที่สุด
  • เริ่มทำความสะอาดใบหน้า ในกรณีที่ผู้เข้ารับบริการแต่งหน้ามา ต้องทำความสะอาดบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ให้สะอาดก่อน
  • แพทย์ทำการแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ผู้เข้ารับบริการดูต่อหน้า เพื่อที่จะให้สามารถทำการตรวจสอบได้ว่าฟิลเลอร์ที่แพทย์นำมาฉีดนั้นเป็นของแท้ก่อนทำการฉีด
  • ประคบน้ำแข็ง เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม ซึ่งในบางคลินิกอาจเริ่มลงยาชาก่อน หรือบางแห่งก็เริ่มการฉีดฟิลเลอร์เลยทันทีเพราะส่วนใหญ่ในฟิลเลอร์จะมียาชาอยู่แล้วเช่นกัน
  • เมื่อฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว หมอจะแนะนำวิธีดูแลตัวเองต่าง ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็ว และอยู่ได้นานขึ้น

ฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์มีหลากหลายรุ่น หลากหลายยี่ห้อด้วยกัน ซึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากคลินิกต่าง ๆ นั้นก็เช่น..

ฟิลเลอร์ Restylane

จากประเทศสวีเดน ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลกที่มีการพัฒนาและผลิตมาอย่างยาวนาน ซึ่งปัจจุบันฟิลเลอร์ Restylane ที่ผ่านมาตรฐาน อย.ไทย แล้วนั้น ก็มีอยู่ถึง 8 รุ่นด้วยกันซึ่งก็จะมีความแตกต่างกันออกไป

ฟิลเลอร์ Neuramis

จากประเทศเกาหลี มีกระบวนการผลิตด้วย SHAPE Technology ปัจจุบันมีอยู่ 3 รุ่นที่ได้รับรองจาก อย.ไทยซึ่งถือว่าเป็นฟิลเลอร์จากเกาหลีอีกตัวหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

ฟิลเลอร์ Belotero

เป็นฟิลเลอร์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์  เป็นฟิลเลอร์อีกแบรนด์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในไทย เนื่องจากเป็นฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ และยังมีหลากหลายรุ่นให้เลือกใช้ ทั้งนี้ ยังเป็นฟิลเลอร์ที่มีความยืดหยุ่นสูง มีจุดเด่นในการใช้แก้ปัญหาร่องลึกมาก ๆ จากการยุบตัวของเนื้อเยื่อผิวหนังและจากการเสื่อมสภาพตามวัย

ฟิลเลอร์ Juvederm

จากประเทศอเมริกา ผ่านการรับรองจาก อย.อเมริกาและที่ผ่าน อย.ไทยตอนนี้มีอยู่ด้วยกัน 7 รุ่นที่สามารถช่วยการแก้ปัญหาอย่างครอบคลุม ซึ่งฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ ใช้ 2 เทคโนโลยีในการผลิต ได้แก่ Hylacross และ Vycross Technology นั่นเอง

ฟิลเลอร์ Yvoire

ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ผลิตจากกรดไฮยาลูรอนิกที่ด้วยเทคโนโลยี HICE Cross-link (HIgh Concentration Equalized Cross-link) ฟิลเลอร์ Yvoire ในปัจจุบันมีอยู่ 3 รุ่น ลักษณะของแต่ละรุ่นจะแตกต่างกันเพื่อให้ใช้แก้ปัญหาในแต่ละจุดที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่อาจเกิดขึ้น…

สามารถแบ่งออกได้ 2 ลักษณะด้วยกัน คือ…

ผลข้างเคียงในระยะแรก

เป็นลักษณะของผลข้างเคียงที่สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วันแรก หรือช่วง 14 วันแรกหลังฉีด เช่น..

  •  มีลักษณะบวม นูน เป็นก้อน และขรุขระ
  •  การติดเชื้อเฉียบพลัน

ผลข้างเคียงในระยะยาว

เป็นผลข้างเคียงในบางกรณีที่ผู้เข้ารับบริการอาจมีอาการแพ้หรือเป็นผลข้างเคียงที่มีความรุนแรงที่อาจส่งผลในระยะยาว เช่น…

  • เกิดตุ่ม ก้อน และบวม ในภายหลังจากการแพ้หรือติดเชื้อ
  • มีหนองหรือน้ำเหลือง ซึมจากการใช้ฟิลเลอร์ถาวร

ซึ่งนอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลาย ๆ ผลข้างเคียงที่ควรระวัง ซึ่งหลังการทำหัตถการ ผู้เข้ารับบริการควรทำตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยและป้องการผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น

การดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์

หนึ่งในประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ผู้เข้ารับบริการควรทราบและทำการอย่างเคร่งครัด ซึ่งการดูแลเบื้องต้นสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้…

  • หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาบริเวณที่ฉีดเพราะอาจทำให้เกิดอาการแดงหรือบวม
  • ควรงดรับประทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้า เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการสูบบุหรี่
  • ควรอยู่ในที่อาการเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม.
  • หากก่อนทำไม่ได้รับประทานยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที

FAQ คำถามที่พบบ่อย

ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน

โดยเฉลี่ยอยู่ได้นาน 8-12 เดือน แต่จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้ รวมถึงการดูแลของผู้เข้ารับบริการเองด้วย

ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล

ส่วนใหญ่จะเห็นผลแบบเข้าที่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งแต่ละบริเวณจะใช้เวลาที่แตกต่างกันออกไป

ฟิลเลอร์ มีส่วนผสมอะไรบ้าง

หลัก ๆ แล้วจะเป็นสารเติมเต็มอย่าง ไฮยาลูรอนิค แอซิด Hyaluronic Acid