การ รีแพร์น้องสาว เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยกระชับช่องคลอดให้มีความเต่งตึงและมีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาช่องคลอดอีกหลายประการ อย่างไรก็ดี แม้จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ ข้อเสีย ของการทำ รีแพร์ ก็มีอยู่เช่นเดียวกัน และข้อเสียดังกล่าวก็คงหนีไม่พ้นอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหลังเข้ารับการรีแพร์ แต่การรีแพร์นั้นก็มีทั้ง แบบผ่าตัด และ ไม่ผ่าตัด ซึ่งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นก็อาจมีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าการรีแพร์กระชับช่องคลอดทั้ง 2 แบบ แบบไหนมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง
รีแพร์น้องสาว คืออะไร แบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด มีเทคนิคอะไรบ้าง?
รีแพร์กระชับช่องคลอด (Anterior Vaginal Wall Repair) คือ การผ่าตัดช่องคลอดเพื่อแก้ไขรักษาปัญหาช่องคลอดหลวมหรือหย่อนคล้อยก่อนถึงวัยอันควร ซึ่งอาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะเคลื่อนตัวลงมาที่ช่องคลอด และอาจเกิดความผิดปกติ หรือความเสียหายภายในผนังช่องคลอด จนทำให้เนื้อบริเวณช่องคลอดหย่อนคล้อยไม่กระชับตัว
รีแพร์ช่องคลอด มีกี่แบบ
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีการรีแพร์นั้นมีหลายแบบ แต่หลัก ๆ สามารถแบ่งได้ 2 แบบด้วยกัน คือ
กระชับช่องคลอดแบบผ่าตัด
เป็นการรีแพร์ หรือ ผ่าตัดแก้ปัญหาและเย็บน้องสาวให้กระชับขึ้น โดยจะมีบาดแผลเกิดขึ้นในช่องคลอด ซึ่งหลังจากรีแพร์คนไข้จะต้องหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ หรือสิ่งที่เป็นสาเหตุอาจทำให้แผลที่บริเวณช่องคลอด เกิดการฉีกขาดหรือมีแผลเพิ่มขึ้นจากเดิม หลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกประเภท ที่จะเกิดการกระทบแผลจากการผ่าตัด แม้กระทั้งการไอ หรือจาม แรง ๆ ก็อาจส่งผลได้
กระชับช่องคลอดแบบไม่ผ่าตัด
ส่วนใหญ่ การรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด จะเป็นการใช้คลื่นความถี่เพื่อการกระชับช่องคลอด นวัตกรรมใหม่ในการทำรีแพร์ เป็นการใช้พลังงานคลื่นความถี่ RF หรือ Radio Frequency เป็นการทำรีแพร์โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด โดยใช้เครื่องมือเลเซอร์ ที่มีหัวเลเซอร์ขนาดเล็กๆ ใส่เข้าไปบริเวณช่องคลอดที่เราต้องการทำการรักษาจากนั้นจะมีการปล่อยคลื่นความถี่วิทยุความถี่ที่ปลอดภัย จากกระแสไฟฟ้าออกมาที่หัวเลเซอร์ ซึ่งเป็นการกระชับช่องคลอดโดยไม่ต้องทำการผ่าตัดแบบเดิมอีกต่อไป ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยไม่มีความรู้สึกเจ็บขณะทำ
อาการหลังทำรีแพร์ แบบผ่าตัด และ ไม่ผ่าตัด ต่างกันอย่างไร
และจากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ผู้อ่านอาจเห็นแล้วว่าการรีแพร์ทั้ง 2 แบบนั้น
หลังการทำรีแพร์แบบผ่าตัด
อาจมีอาการมึนงง เวียนศีรษะ หรือคลื่นไส้อาเจียนจากการใช้ยาสลบ มีอาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดและบริเวณก้นกบ รวมทั้งมีความรู้สึกปวดเบ่งอยากถ่ายอุจจาระตลอดเวลา ทั้งนี้อาจมีเลือดหรือตกขาวออกมาด้วย จึงแนะนำให้สวมใส่ผ้าอนามัยเพื่อป้องกันไม่ให้เลอะ ทั้งนี้ทั้งนั้นควรนอนพัก และควรหยุดทำงาน รวมทั้งควรงดกิจกรรมทางกายภาพต่าง ๆ ซึ่งได้แก่ การเดินหรือการขึ้นลงบันได เพื่อลดอาการปวดจากภาวะอักเสบของแผลผ่าตัด รวมทั้งการนอนพักช่วยให้แผลผ่าตัดไม่ถูกขยับไปมาจากการเคลื่อนไหว ซึ่งก็จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน
หลังการทำรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด
ส่วนมากแล้วไม่ค่อยมีผลข้างเคียงหลังการทำรีแพร์แบบไม่ผ่าตัด เพียงปฏิบัติตัวไม่ให้กระทบกับช่องคลอดก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
การดูแลตนเองหลังทำรีแพร์แบบเบื้องต้น
เพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือน หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตนเองตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- งดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรง การยกของหนัก 4 สัปดาห์
- งดมีเพศสัมพันธ์ 2 เดือน
- เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อย โดยเฉพาะการเดินหรือวิ่ง เพือป้องกันแผลอักเสบหรือฉีกขาด
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่แบบระยะยาว
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดในทุกเช้ากับเย็น รวมถึงหลังปัสสาวะและอุจจาระทุกครั้ง
- พักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน
- สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติทุกอย่าง แต่ให้ดื่มน้ำมากๆ ด้วย
- มาพบแพทย์เพื่อตรวจความเรียบร้อยของแผลสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม จากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนมากแล้ว อาจต้องทำรีแพร์ ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น คุณผู้หญิงควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับคนรักก่อนตัดสินใจทำรีแพร์ ต้องเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานโดยเฉพาะ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีหลังการผ่าตัด
Rejavoo Clinic คลินิกเพื่อความสวยความงาม ครบทุกวงจร
ผู้นำนวัตกรรมด้านความสวยความที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณ ด้านการกระชับตามจุดต่าง ๆ และหัตถการฉีดใบหน้า ซึ่งเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการได้รับความประทับใจและปลอดภัยจากบริการที่มีประสิทธิภาพจากทาง Rejavoo Clinic ให้ได้มากที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม ดูแลตัวเองยังไงให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น?
รีแพร์ช่องคลอด ก่อน-หลังรีแพร์แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
5 อาการหลังทํารีแพร์ที่ควรระวัง หากดูแลไม่ดีส่งผลอันตรายได้
ปรึกษาเพิ่มเติม สอบถามคิว นัดจองคิว
บทความที่น่าสนใจ
ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม หากเผลอกินเข้าไปจะเกิดอันตรายหรือเปล่า
ฉีดโบท็อก หน้าไม่เท่ากัน ปรับสัดส่วน แก้ให้จึ้ง ทำให้ถึง ที่ Rejavoo
หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง ของกิน 4 อย่างที่ควรงด!!
หลังฉีดโบท็อก แต่งหน้าได้ไหม ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะแต่งได้ปกติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช้ำม่วง เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ แก้ยังไงดี
ฟิลเลอร์ละลาย เพราะอากาศร้อน เกิดขึ้นได้มั้ย มาไขข้อสงสัยกัน!
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม? อยากให้ความฟิตอยู่นานๆ ดูแลยังไงดี
ช่องคลอดหลวม หลังคลอด คุณแม่หนักใจ ทำยังไงให้ฟิตเหมือนเดิม?
ฉีด โบ ท็ อก แล้วปากเบี้ยว แก้ ยัง ไง เป็นผลข้างเคียงอันตรายที่ต้องหาหมอหรือเปล่า?