เพศสัมพันธ์หลังคลอด กิจกรรมทางเพศที่ถือเป็นเรื่องธรรมชาติของคู่รัก หรือของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งต้องบอกก่อนว่าแม้จะเป็นที่ทราบกันดีว่ากิจกรรมนี้สามารถเกิดขึ้นได้และไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องใส่ใจและระวังเป็นพิเศษ เพราะโดยทั่วไปแล้วการมีเซ็กส์หลังจากที่ทางคุณแม่คลอดบุตรแล้วเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำได้ทันที เพราะอาจส่งผลกระทบต่อช่องคลอดของคุณแม่ได้นั่นเอง และเพื่อไม่ให้ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น แพทย์จะเป็นผู้แนะนำและกำหนดระยะเวลาให้ว่าคุณแม่สามารถมีเพศสัมพันธ์กับคุณพ่อได้ช่วงไหน ดังนั้น ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่าเซ็กส์แบบไหนที่เหมาะกับคุณแม่หลังคลอดมากที่สุดและปลอดภัยกับช่องคลอดของคุณแม่มากที่สุดบ้าง
เพศสัมพันธ์หลังคลอด ที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ ควรคำนึงถึงอะไรและมีท่าไหนปลอดภัยบ้าง?
แม้การมีเซ็กส์หลังคลอดอาจเป็นเรื่องสุดท้ายที่คุณแม่จะคำนึงถึง เพราะต้องยุ่งวุ่นวายอยู่กับการดูแลเจ้าตัวเล็ก แต่เมื่อเริ่มเคยชินกับการเลี้ยงดูลูกและสามารถทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ได้ตามปกติแล้ว คุณแม่อาจมีข้อสงสัยว่าจะสามารถมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งได้เมื่อไร และการมีเซ็กส์หลังคลอดจะเจ็บหรือจะปลอดภัยหรือไม่ มาดูไปพร้อม ๆ กัน
สิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับ “ช่องคลอด” เมื่อมีเซ็กส์หลังคลอด
การมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งหลังคลอดอาจทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บปวดได้ ทั้งยังอาจเป็นกังวลว่าแผลจะหายดีแล้วหรือยัง ซึ่งคุณแม่ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการมีเซ็กส์หลังคลอด เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับช่องคลอดได้ค่ะ
ซึ่งภาวะที่อาจเกิดขึ้นคือ คุณแม่อาจเป็นกังวลถึงร่างกายที่เปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากช่องคลอดขยายใหญ่ขึ้นขณะคลอด ซึ่งความวิตกกังวลนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสุขบนเตียงได้ อย่างไรก็ตาม ช่องคลอดและอวัยวะต่าง ๆ ภายในระบบสืบพันธ์ุจะค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาพเดิม ซึ่งการฝึกขมิบช่องคลอดอาจช่วยทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงขึ้นด้วย
เริ่มมีเซ็กส์หลังคลอดได้เมื่อไร ?
คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่า หลังจากคลอดเจ้าตัวเล็กแล้วจะสามารถมีเพศสัมพันธ์กับสามีได้อีกครั้งเมื่อไร ซึ่งตามปกติแล้วร่างกายจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวไม่ว่าจะผ่านการคลอดแบบธรรมชาติหรือผ่าคลอดก็ตาม โดยแพทย์อาจอนุญาตให้มีเซ็กส์หลังคลอดบุตรไปแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์ เพื่อรอให้ปากมดลูกปิด เลือดหยุดไหล และแผลฉีกขาดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการคลอดนั้นฟื้นฟูและหายดีก่อน
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความพร้อมของคุณแม่ โดยคุณแม่บางรายอาจพร้อมมีเพศสัมพันธ์อีกครั้งหลังคลอดเพียงไม่กี่สัปดาห์ ในขณะที่คุณแม่บางรายอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือนหรือนานกว่านั้น ทั้งนี้ ปัจจัยต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อแรงขับทางเพศได้ เช่น ความเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงดูบุตร หน้าที่การงาน ความเครียด และการกลัวความเจ็บปวด เป็นต้น
ปัจจัยเบื้องต้นที่คุณแม่ควรคำนึงก่อนมีเซ็กส์หลังคลอด
สภาพร่างกายและอารมณ์ของคุณแม่แต่ละคนอาจแตกต่างกันไป แม่บางคนอาจกลับมามีเซ็กซ์ได้เร็วกว่าคนอื่น หรือช้ากว่าคนอื่นตามปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ
คุณหมออนุญาตแล้ว
ถ้าคุณแม่ยังกังวลทั้งปัญหาด้านร่างกายหรือจิตใจ แนะนำให้รอจนกว่าหมอที่ดูแลจะทำการตรวจสอบร่างกายและอนุญาตให้มีเพศสัมพันธ์ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตราย ภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่สายเกินแก้ไขได้นะคะ
การฟื้นฟูของร่างกาย
ร่างกายของผู้หญิงหลังคลอดลูกควรจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ โดยอาจใช้เวลาตั้งแต่ 6 สัปดาห์ถึงหลายเดือนขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและวิธีการคลอด ไม่อย่างนั้นอาจจะรู้สึกไม่สบายหรือเจ็บปวดระหว่างมีเซ็กซ์ได้ เช่น ช่องคลอดฉีกขาด เป็นต้น
ความพร้อมทางอารมณ์
การมีลูกถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตและอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่ออารมณ์หรือความต้องการทางเพศ คุณแม่ควรรอจนกว่าจะรู้สึกพร้อมมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง และไม่ต้องกลัวที่จะเปิดอกพูดคุยกับคนรักในเรื่องของความกังวลต่าง ๆ นะคะ
มีเวลาในการการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน
การออกกำลังกายแบบคีเกล (Kegel) สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานที่อาจอ่อนแอลงในระหว่างตั้งครรภ์และการคลอดลูก ช่วยควบคุมกระเพาะปัสสาวะ และลดความเสี่ยงของการหย่อนยานของช่องคลอด
4 ท่าเซ็กซ์ที่ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ ไร้กังวลปัญหาช่องคลอดหย่อนยาน
สำหรับท่าเซ็กซ์ที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลกระทบต่อช่องคลอดของคุณแม่นั้นมีอยู่หลายท่าด้วยกันค่ะ เช่น
- Missionary with Pillowsในท่านี้ผู้หญิงจะนอนหงายโดยมีหมอนหนุนใต้สะโพก ซึ่งถูกยกขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดแรงกดที่บริเวณท้อง ท่านี้ช่วยทำให้ถูกสอดใส่ไม่ลึกมากเกินไป จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มมีเซ็กซ์หลังคลอดลูก
- Spooning ท่านี้ทำได้โดยให้คู่รักนอนข้างกัน โดยคุณผู้ชายอยู่ด้านหลังและสอดใส่เข้าไปในร่างกายผู้หญิง ท่านี้ถือว่าปลอดภัยเพราะจะไม่กดทับแผลบริเวณหน้าท้อง จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้หญิงที่เพิ่งคลอด
- Modified Doggy Style ผู้หญิงจะอยู่ในลักษณะท่าคลานสี่ขา แต่แทนที่จะใช้มือและเข่าค้ำตัวเอาไว้ ให้ใช้ต้นแขนและเข่ารับน้ำหนักแทน รวมถึงสามารถค้ำแขนไว้กับขอบโต๊ะหรือเตียงอีกด้วย
- Woman on Top คุณผู้หญิงถูกสอดใส่โดยนั่งอยู่บนตัวของผู้ชาย ท่านี้ช่วยให้ผู้หญิงสามารถควบคุมความลึกและแรงในการสอดใส่ได้ ลดความเสี่ยงของความรู้สึกไม่สบายหรือความเจ็บปวด และยังช่วยลดแรงกดทับบริเวณช่องท้องด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะดูแลตนเองดูแลช่องคลอดจากการมีเพศสัมพันธ์หลังคลอดแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าคุณแม่อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะช่องคลอดหลวมได้หลังการคลอดบุตรอยู่ดี ดังนั้น ไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอะไร สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือการดูแลตนเองและทำความเข้าใจกับธรรมชาติของร่างกายของตนเองอยู่เสมอค่ะ โดยเรื่องเพศสัมพันธ์ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนต่อชีวิตคู่ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นปัจจัยที่อาจกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่ด้วย คุณพ่อก็ต้องร่วมทำความเข้าใจคุณแม่ด้วยเช่นกันนะคะ
แก้ไขปัญหา “ช่องคลอดหลวมหลังคลอด” อย่างไรดี ?
ปัญหานี้บรรเทาลงได้ด้วยการกระชับช่องคลอดค่ะ ซึ่งสามารถทำได้ทั้ง “การขมิบ” ฝึกให้ได้วันละ 100 รอบขั้นต่ำ และ “การออกกำลังกายบริหารอุ้งเชิงกราน” ต้องทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้น้องสาวกระชับ แต่หากสาวๆอยากได้วิธีที่รวดเร็วและเห็นผลในเวลาอันสั้น แนะนำให้ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยค่ะ ซึ่งเลเซอร์กระชับช่องคลอดเป็นอีก 1 วิธีที่ได้รับความนิยม เห็นผล และไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักรัก ทำเสร็จแล้วไม่ต้องงดกิจกรรม
“รีแพร์กระชับช่องคลอด” เทคนิคทางการแพทย์ช่วยให้น้องสาวฟิตและเฟิร์มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
และจากที่กล่าวไปค่ะว่า แม้อาการจิ๋มตดจากการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นั้นจะไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่สาว ๆ ควรทำความรู้จักกับการ “รีแพร์” เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดผายลมได้อย่างตรงจุดไว้ด้วยค่ะ
ซึ่งการ รีแพร์ (Repair) หรือ การซ่อมแซม คือ การผ่าตัดตกแต่งกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อที่หย่อนยานภายในช่องคลอดให้กระชับขึ้น เพื่อให้ขนาดหรือเส้นผ่าศูนย์กลางของช่องคลอดเล็กลงและเกิดการหดรัดที่ดีกว่าเดิม โดยเป็นการผ่าตัดตลอดแนวความลึกของช่องคลอด รวมถึงการผ่าตัดตกแต่งเนื้อเยื่อและผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดด้วย
และหากถามว่าวิธีนี้ช่วยแก้ปัญหาช่องคลอดหย่อยคล้อยได้อย่างไร คำตอบคือ นั่นเป็นเพราะ “ปัญหาช่องคลอดหย่อนยาน” ที่คุณผู้หญิงกำลังประสบอยู่ จะมีลักษาะที่ผิวด้านในจนถึงปากช่องคลอดที่เกิดหย่อนยานจนมีเนื้อห้อยปลิ้นออกมา ร่วมกับมีความรู้สึกคล้ายกับช่องคลอดหลวม หรือรู้สึกว่ามีน้ำหนักถ่วงอยู่บริเวณจุดซ่อนเร้นจนทำให้รู้สึกไม่สบายตัวได้ โดยปัญหาช่องคลอดหลวมอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น การคลอดบุตร อาการของโรคบางชนิดที่เกิดแรงดันต่อผิวอุ้งเชิงกราน การยกของหนัก ออกกำลังกายหนัก และอายุที่มากขึ้น หลาย ๆ คนจึงเลือกใช้วิธีรีแพร์เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุดนั่นเอง
การรีแพร์เพื่อกระชับ มีกี่แบบ
รูปแบบการรีแพร์ที่นิยมทำกันในปัจจุบันแบ่งออกได้ 4 รูปแบบใหญ่ ๆ ได้แก่
รีแพร์โดยการผ่าตัด
การผ่าตัด เป็นการทำรีแพร์เพื่อเปลี่ยนแปลงผิวช่องคลอดที่หย่อนยาน ซึ่งจัดเป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล และช่วยปรับสภาพความหย่อนยานของช่องคลอดได้กึ่งถาวรเลยทีเดียว ดังนั้น จึงเป็นอีกวิธีที่หลาย ๆ คนเลือก
รีแพร์ด้วยการยิงเลเซอร์
เป็นวิธีปรับความหย่อนคล้อยของผิวโดยการสัมผัสหรือสอดอุปกรณ์เข้าไปในช่องคลอด จากนั้นจะค่อยๆ ปล่อยพลังงานออกมาปรับสภาพเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพให้เกิดความกระชับขึ้น เครื่องยิงเลเซอร์ที่ใช้ทำรีแพร์ในปัจจุบันมีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานพยาบาล
รีแพร์ด้วยการฉีดฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์ (Filler) คือ สารสังเคราะห์ของสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในเนื้อผิวมนุษย์ทุกคน ทำหน้าที่สร้างความเต่งตึงให้ผิวดูมีมิติ อิ่มเอิม ไม่เหี่ยวย่น และสามารถนำมาฉีดบริเวณจุดซ่อนเร้นเพื่อแก้ไขความหย่อนยานได้เช่นกัน
รีแพร์แบบ HIFU
HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) หรือ “ไฮฟู” เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มสูงในการกระชับผิว นอกจากจะใช้กันอย่างแพร่หลายในการเสริมความงามบนใบหน้าเพื่อกระชับผิวและลดริ้วรอยแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังนำมาใช้รักษาให้ช่องคลอดและปากช่องคลอดกระชับขึ้นได้ โดยไม่ต้องผ่าตัด โดย HIFU จะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอดสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นใหม่ มีการเรียงตัวที่ดีขึ้น ทำให้ผิวและเนื้อเยื่อที่บริเวณนี้ได้รับการฟื้นฟู และกระชับมากกว่าเดิมนั่นเอง
รีแพร์ช่องคลอด จาก Rejavoo Clinic
บริการรีแพร์จาก Rejavoo Clinic เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มสูงในการกระชับผิวที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างแพร่หลาย ซึ่ง Rejavoo Clinic ก็ได้นำจุดโดดเด่นของการรีแพร์ด้วยเทคโนโลยีแบบพิเศษเฉพาะของทางคลินิก ซึ่งจุดเด่นของเทคโนโลยีรีแพร์ของเราที่เหนือเทคโนโลยีอื่นก็คือ การใช้อัลตราซาวด์ที่มีความเข้มสูง สามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่ค่อนข้างลึกและอยู่ติดกับชั้นกล้ามเนื้อโดยปกติแล้วแพทย์จะผ่าตัดที่ผิวหนังชั้นนี้เพื่อแก้ไขให้ผิวกระชับขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีจาก รีแพร์ของ Rejavoo Clinic ก็สามารถทำให้ผิวและเนื้อเยื่อกระชับได้มีประสิทธิภาพกว่าเทคโนโลยีอื่น ซึ่งจะคอยกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอดสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นใหม่ และมีการเรียงตัวที่ดีขึ้น ทำให้ผิวและเนื้อเยื่อที่บริเวณนี้ได้รับการฟื้นฟู และกระชับมากกว่าเดิมนั่นเอง
Rejavoo Clinic คลินิกเพื่อความสวยความงาม ครบทุกวงจร
ผู้นำนวัตกรรมด้านความสวยความที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณ ด้านการกระชับตามจุดต่าง ๆ และหัตถการฉีดใบหน้า ซึ่งเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรีแพร์ได้รับความประทับใจและปลอดภัยจากบริการที่มีประสิทธิภาพจากทาง Rejavoo Clinic ให้ได้มากที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม ดูแลตัวเองยังไงให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น?
รีแพร์ช่องคลอด ก่อน-หลังรีแพร์แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
5 อาการหลังทํารีแพร์ที่ควรระวัง หากดูแลไม่ดีส่งผลอันตรายได้
ปรึกษาเพิ่มเติม สอบถามคิว นัดจองคิว
บทความที่น่าสนใจ
ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม หากเผลอกินเข้าไปจะเกิดอันตรายหรือเปล่า
ฉีดโบท็อก หน้าไม่เท่ากัน ปรับสัดส่วน แก้ให้จึ้ง ทำให้ถึง ที่ Rejavoo
หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง ของกิน 4 อย่างที่ควรงด!!
หลังฉีดโบท็อก แต่งหน้าได้ไหม ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะแต่งได้ปกติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช้ำม่วง เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ แก้ยังไงดี
ฟิลเลอร์ละลาย เพราะอากาศร้อน เกิดขึ้นได้มั้ย มาไขข้อสงสัยกัน!
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม? อยากให้ความฟิตอยู่นานๆ ดูแลยังไงดี
ช่องคลอดหลวม หลังคลอด คุณแม่หนักใจ ทำยังไงให้ฟิตเหมือนเดิม?
ฉีด โบ ท็ อก แล้วปากเบี้ยว แก้ ยัง ไง เป็นผลข้างเคียงอันตรายที่ต้องหาหมอหรือเปล่า?