ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม? เป็นคำถามที่สาว ๆ หลายคนสงสัยว่าผลลัพธ์หลังการรีแพร์นั้นจะอยู่ได้นานหรือเปล่า ซึ่งต้องบอกก่อนว่า โดยปกติแล้วการทำรีแพร์ด้วยเลเซอร์จะอยู่ได้ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ส่วนมากมักอยู่ที่ประมาณ 1 ปี หรือน้อยกว่า ตามแต่ลักษณะพฤติกรรมการใช้ชีวิต หลังจากนั้นผู้เข้ารับบริการต้องกลับมาทำรีแพร์ซ้ำอีกเพื่อปรับสภาพผิวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ผลลัพธ์จากการทำรีแพร์หายไปก่อนเวลา ผู้เข้ารับบริการทุกคนจึงควรรู้แนวทางการปฏิบัติตนเองและทราบถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ทำให้ช่องคลอดหลังรีแพร์หย่อนคล้อยไวขึ้นว่ามีอะไรบ้างเพื่อจะได้หลีกเลี่ยงได้อย่างถูกต้องนั่นเองค่ะ
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม ไขข้อสงสัย ทำยังไงให้ความฟิตอยู่กับเรานาน ๆ หลังรีแพร์
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม เป็นคำถามที่ผู้เข้ารับบริการหลาย ๆ คนต้องการทราบ เนื่องจากการรีแพร์เป็นหัตถการที่ช่วยแก้ไขปัญหาช่องคลอดไม่กระชับ หรือหลวม ที่ทำให้บรรดาสาว ๆ ขาดความมั่นใจได้ดีและเห็นผลชัดเจนที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณผู้หญิงอยากจะให้ผลลัพธ์ของการรีแพร์อยู่นาน ๆ ดังนั้น เพื่อไขข้อข้องใจให้กับทุก ๆ คนว่าผลการทำรีแพร์อยู่นานไหม นานแค่ไหน และต้องทำยังไงให้อยู่ได้นานที่สุด ในบทความนี้ Rejavoo Clinic มีคำตอบมาฝากกัน
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรให้ผลลัพธ์การรีแพร์อยู่นานขึ้น
โดยปกติแล้วการทำรีแพร์ด้วยเลเซอร์จะอยู่ได้ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ส่วนมากมักอยู่ที่ประมาณ 1 ปี หรือน้อยกว่า ตามแต่ลักษณะพฤติกรรมการใช้ชีวิต หลังจากนั้นผู้เข้ารับบริการต้องกลับมาทำรีแพร์ซ้ำอีกเพื่อปรับสภาพผิวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ผลลัพธ์จากการทำรีแพร์หายไปก่อนเวลา ผู้เข้ารับบริการทุกคนจึงควรรู้แนวทางการปฏิบัติตนเองและทราบถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ที่ทำให้ช่องคลอดหลังรีแพร์หย่อนคล้อยไวขึ้นว่ามีอะไรบ้างเพื่อจะได้หลีกเลี่ยงได้อย่างถูกต้อง
หลังทำรีแพร์จะคงความกระชับได้นานแค่ไหน
ลงทุนเจ็บตัวไปทำรีแพร์มาทั้งที คุณผู้หญิงก็คงอยากให้ความกระชับคงอยู่ไปนานๆ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่อาจทำให้ผนังช่องคลอดกลับมาหย่อนคล้อยได้อีก บางคนแค่ 1 -2 ปีก็หย่อนคล้อยอีก บางคนอาจนาน 4-5 ปี แต่ก็มีบางคนคงอยู่ถึง 7-8 ปีเลยก็มี ซึ่งการที่ผนังช่องคลอดจะกลับมาหย่อนคล้อยซ้ำเร็วหรือช้าขึ้นกับปัจจัยต่อไปนี้
1.พฤติกรรมเสี่ยงบางอย่าง
ถ้าหลังผ่าตัดรีแพร์มีพฤติกรรมเหล่านี้เป็นประจำ เช่น ท้องผูก, ไอจาม, ยกของหนัก เป็นต้น ก็จะทำให้ผนังช่องคลอดกลับมาหย่อนคล้อยซ้ำเร็วขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมดังกล่าวจะไปเพิ่มความดันภายในช่องท้อง และแรงที่มากระทบกับผนังช่องคลอด
2.ภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง
ถ้ารังไข่ยังคงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นปกติ ระดับของฮอร์โมนตัวนี้ในร่างกายยังสูง ผนังช่องคลอดจะมีความหนานุ่ม ชุ่มชื้น และมีความยืดหยุ่นดี แต่ถ้าระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำลง ผนังช่องคลอดจะบาง แห้ง ไม่ยืดหยุ่นและเกิดการหย่อนคล้อยขึ้น ซึ่งตรงเป็นเรื่องที่ระบุไม่ได้ว่า หลังการทำรีแพร์ไปแล้ว รังไข่ของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร หรือกี่ปีระดับฮอร์โมนจึงจะเริ่มลดลง แต่โดยปกติระดับฮอร์โมนเพศจะลดลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
3.คอลลาเจนที่น้อยลง
ถ้าในกระบวนการหายของแผลที่ช่องคลอดจากการทำรีแพร์มีการสร้างคอลลาเจนมาก ผนังช่องคลอดก็จะมีความยืดหยุ่น ความกระชับอยู่ได้นาน แต่ถ้าสร้างคอลลาเจนได้น้อย ความตึง ความกระชับของช่องคลอดก็จะน้อยตามไปด้วย ซึ่งความแตกต่างตรงนี้ก็จะทำให้ความหย่อนคล้อยของผนังช่องคลอดเกิดช้าเร็วไม่เท่ากัน
การดูแลตนเองหลังทำรีแพร์แบบเบื้องต้น
เพื่อไม่ให้แผลกระทบกระเทือน หรือเกิดภาวะแทรกซ้อน ผู้เข้ารับบริการควรดูแลตนเองตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- งดออกกำลังกาย หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรง การยกของหนัก 4 สัปดาห์
- งดมีเพศสัมพันธ์ 2 เดือน
- เคลื่อนไหวร่างกายให้น้อย โดยเฉพาะการเดินหรือวิ่ง เพือป้องกันแผลอักเสบหรือฉีกขาด
- งดบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่แบบระยะยาว
- ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดในทุกเช้ากับเย็น รวมถึงหลังปัสสาวะและอุจจาระทุกครั้ง
- พักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน
- สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติทุกอย่าง แต่ให้ดื่มน้ำมากๆ ด้วย
- มาพบแพทย์เพื่อตรวจความเรียบร้อยของแผลสม่ำเสมอ
การฝึกกระชับช่องคลอดด้วยตนเอง
การฝึกขมิบช่องคลอด โดยเริ่มทีละน้อยเช่น เริ่มจากวันละ 10 ครั้ง จากนั้นจึงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 50-100 ครั้ง จะช่วยให้ช่องคลอดมีความกระชับมากยิ่งขึ้น สาว ๆ สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา และควรทำให้ต่อเนื่องอย่างน้อย 2-3 เดือน เพราะการขมิบช่องคลอดเป็นวิธีธรรมชาติที่ช่วยกระชับช่องคลอดอย่างปลอดภัย และเพื่อผลลัพธ์การทำรีแพร์ที่ได้ผลที่ดีที่สุดและสร้างมั่นใจให้สาว ๆ ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่มีปัญหาช่องคลอดหลวม จากภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนมากแล้ว อาจต้องทำรีแพร์ ซึ่งเป็นการผ่าตัดที่ละเอียดอ่อน ดังนั้น คุณผู้หญิงควรพูดคุยและทำความเข้าใจกับคนรักก่อนตัดสินใจทำรีแพร์ ต้องเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมตกแต่งช่องคลอดและอุ้งเชิงกรานโดยเฉพาะ เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีหลังการผ่าตัด
Rejavoo Clinic คลินิกเพื่อความสวยความงาม ครบทุกวงจร
ผู้นำนวัตกรรมด้านความสวยความที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณ ด้านการกระชับตามจุดต่าง ๆ และหัตถการฉีดใบหน้า ซึ่งเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรีแพร์และอื่น ๆ ได้รับความประทับใจและปลอดภัยจากบริการที่มีประสิทธิภาพจากทาง Rejavoo Clinic ให้ได้มากที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
4 วิธีกระชับช่องคลอดแบบเร่งด่วน เห็นผลทันใจ ไม่ต้องรอ
รีแพร์ช่องคลอด ก่อน-หลังรีแพร์แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
5 อาการหลังทํารีแพร์ที่ควรระวัง หากดูแลไม่ดีส่งผลอันตรายได้
ปรึกษาเพิ่มเติม สอบถามคิว นัดจองคิว
บทความที่น่าสนใจ
ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม หากเผลอกินเข้าไปจะเกิดอันตรายหรือเปล่า
ฉีดโบท็อก หน้าไม่เท่ากัน ปรับสัดส่วน แก้ให้จึ้ง ทำให้ถึง ที่ Rejavoo
หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง ของกิน 4 อย่างที่ควรงด!!
หลังฉีดโบท็อก แต่งหน้าได้ไหม ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะแต่งได้ปกติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช้ำม่วง เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ แก้ยังไงดี
ฟิลเลอร์ละลาย เพราะอากาศร้อน เกิดขึ้นได้มั้ย มาไขข้อสงสัยกัน!
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม? อยากให้ความฟิตอยู่นานๆ ดูแลยังไงดี
ช่องคลอดหลวม หลังคลอด คุณแม่หนักใจ ทำยังไงให้ฟิตเหมือนเดิม?
ฉีด โบ ท็ อก แล้วปากเบี้ยว แก้ ยัง ไง เป็นผลข้างเคียงอันตรายที่ต้องหาหมอหรือเปล่า?