วิธีล้างจิมิ ไม่ให้มีกลิ่น สิ่งที่สาว ๆ ทุกคนต้องรู้ เพราะเรื่องสุขอนามัยของช่องคลอดไม่ใช่เรื่องที่ควรละเลย แม้หลาย ๆ คนอาจมองว่าเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ไม่จะเป็นต้องใส่ใจก็ได้ แต่แท้จริงแล้ว หากเราทำความสะอาดช่องคลอดอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้ไม่มีกลิ่นแล้ว ยังสามารถป้องกันแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดภาวะผิดปกติทางช่องคลอดได้อีกด้วย ยังไงก็ตาม สิ่งสำคัญก่อนที่เราจะไปดูว่า 6 วิธีทำความสะอาดช่องคลอดที่ถูกต้องมีอะไรบ้าง เรามาทำความเข้าใจกับสาเหตุของการเกิดกลิ่นที่ช่องคลอดกันก่อน
วิธีล้างจิมิ ไม่ให้มีกลิ่น? ทำความเข้าใจต้นตอของปัญหากลิ่นคาวและแก้ไขให้ถูกจุด
กลิ่นไม่พึงประสงค์จากช่องคลอดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น สุขอนามัย การอักเสบ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ ในบางกรณีอาจดูแลรักษาได้ด้วยตนเอง แต่ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อเข้าตรวจสอบหาสาเหตุและรับคำแนะนำในการรักษาอย่างเหมาะสม
ซึ่งโดยทั่วไปภายในช่องคลอดจะมีทั้งแบคทีเรียชนิดที่ดีและชนิดไม่ดี ซึ่งแบคทีเรียที่ดี ยกตัวอย่างเช่น แลคโตบาซิลัส (Lactobacillus) ที่ช่วยให้ภายในช่องคลอดมีภาวะเป็นกรดอ่อน ๆ และช่วยให้แบคทีเรียชนิดที่ไม่ดีไม่สามารถเจริญเติบโตมากจนเกินไปได้ แต่ในทางกลับกัน หากแลคโตบาซิลลัสมีจำนวนลดลง ทำให้แบคทีเรียชนิดไม่ดีเจริญเติบโตขึ้น อาจเพิ่มโอกาสในการติดเชื้อแบคทีเรียจากภายนอกและทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบ (Bacterial Vaginosis) ช่องคลอดมีกลิ่นคาวปลา มีกลิ่นเหม็นได้ ซึ่งควรได้การรักษาโดยเร็วไวเพื่อไม่ให้กระทบต่อการใช้ชีวิต
เปิดสาเหตุ “ช่องคลอดมีกลิ่นคาว” ที่สาว ๆ อาจคิดไม่ถึง
สาว ๆ ทราบหรือไม่ว่าการที่ช่องคลอดของเรามีกลิ่น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ รวมถึงสาเหตุง่าย ๆ ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น…
รักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศไม่ดีพอ
มีการสะสมของสารคัดหลั่ง หรือจากคราบของประจำเดือน หรือมีกลิ่นช่วงมีประจำเดือนจากการไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย กางเกงชั้นในไม่สะอาด
ไม่เปลี่ยนผ้าอนามัย
ในช่วงที่เป็นประจำเดือน ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกๆ 2 ชั่วโมง ความอับชื้นจะทำให้แบคทีเรียในผ้าเติบโตได้ดีจนคุณอาจจะติดเชื้อในช่องคลอด
เกิดจากการกินอาหารบางชนิดที่ทำให้กลิ่นปนมากับปัสสาวะ
เช่น อาหารทะเลบางชนิด หัวหอม ต้นหอม หรือเครื่องเทศบางชนิด
เกิดจากความอับชื้น
เนื่องจากมีเหงื่อออกมาก โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ จึงทำให้ช่องคลอดมีกลิ่น มักเกิดกับผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมาก ใส่เสื้อผ้าที่รัดรูปมาก หรือใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ไม่ดี
มีการสวนล้างช่องคลอด เพราะจะทำให้ช่องคลอดมีภาวะเป็นด่าง จำนวนแบคทีเรียที่สร้างกลิ่นจึงสูงขึ้น
เกิดจากการติดเชื้อ
โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อของอวัยวะเพศและของช่องคลอด จึงทำให้ช่องคลอดมีกลิ่นได้
เกิดจากโรคมะเร็งของอวัยวะเพศ เช่น โรคมะเร็งปากมดลูก โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือ โรคมะเร็งอวัยวะเพศหญิง
6 วิธีทำความสะอาดช่องคลอด ขจัดปัญหาช่องคลอดไร้กลิ่น
กลิ่นของจุดซ่อนเร้น ปัญหาใหญ่ของผู้หญิงที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ด้วยสภาวะสุขภาพหรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตบางอย่างที่ทำให้สาว ๆ หลายคนมีปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์บริเวณจุดซ่อนเร้นทำให้หมดความมั่นใจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าปัญหากลิ่นจุดซ่อนเร้นจะแก้ไม่ได้ เพราะถ้าคุณสาว ๆ ทำตามวิธีที่หยิบมาแนะนำช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นกับวิธีแก้ที่จะทำให้กลิ่นปลาเค็มที่น้องสาวจะจางลงได้อย่างแน่นอน
- ใช้น้ำเปล่าล้างทำความสะอาดทุกครั้งที่เข้าห้องน้ำ
- ล้างเฉพาะภายนอกเท่านั้น ไม่ควรสวนล้างเข้าไปข้างใน และควรล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง
- หลังจากล้างน้ำแล้ว ควรซับให้แห้ง ซับจากด้านหน้าไปด้านหลัง ไม่ควรวกกลับมาด้านหน้าอีก
- ไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นจนเกินไปเพราะจะทำให้เกิดการอับชื้น
- เมื่อเป็นประจำเดือนให้เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ และล้างทำความสะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ
- ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ เพราะจะทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
อย่างไรก็ดี การรักษาความสะอาดของช่องคลอดโดยสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการป้องกันกลิ่นผิดปกติ โดยแพทย์อาจแนะนำให้ทำความสะอาดบริเวณช่องคลอดด้วยน้ำอุ่นและสบู่ทุกวัน รวมถึงการใช้ผ้าเปียกหรือผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดช่องคลอดอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ หากมีอาการติดเชื้อหรืออาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับช่องคลอด แพทย์อาจสั่งให้ใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อโรค หรือใช้ยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดในช่องคลอด อีกทั้งแพทย์ยังสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและรักษาช่องคลอดให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ โดยเน้นการรักษาความสะอาดด้วยวิธีล้าง ไม่ให้มีกลิ่น เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างสม่ำเสมอ หากมีอาการผิดปกติใด ๆ ในช่องคลอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลังด้วยค่ะ
รีแพร์ช่องคลอด จาก Rejavoo Clinic
บริการรีแพร์จาก Rejavoo Clinic เป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มสูงในการกระชับผิวที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างแพร่หลาย ซึ่ง Rejavoo Clinic ก็ได้นำจุดโดดเด่นของการรีแพร์ด้วยเทคโนโลยีแบบพิเศษเฉพาะของทางคลินิก ซึ่งจุดเด่นของเทคโนโลยีรีแพร์ของเราที่เหนือเทคโนโลยีอื่นก็คือ การใช้อัลตราซาวด์ที่มีความเข้มสูง สามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นที่ค่อนข้างลึกและอยู่ติดกับชั้นกล้ามเนื้อโดยปกติแล้วแพทย์จะผ่าตัดที่ผิวหนังชั้นนี้เพื่อแก้ไขให้ผิวกระชับขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีจาก รีแพร์ของ Rejavoo Clinic ก็สามารถทำให้ผิวและเนื้อเยื่อกระชับได้มีประสิทธิภาพกว่าเทคโนโลยีอื่น ซึ่งจะคอยกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอดสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินขึ้นใหม่ และมีการเรียงตัวที่ดีขึ้น ทำให้ผิวและเนื้อเยื่อที่บริเวณนี้ได้รับการฟื้นฟู และกระชับมากกว่าเดิมนั่นเอง
Rejavoo Clinic คลินิกเพื่อความสวยความงาม ครบทุกวงจร
ผู้นำนวัตกรรมด้านความสวยความที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นด้านผิวพรรณ ด้านการกระชับตามจุดต่าง ๆ และหัตถการฉีดใบหน้า ซึ่งเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้มาตรฐานสากล เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรีแพร์ได้รับความประทับใจและปลอดภัยจากบริการที่มีประสิทธิภาพจากทาง Rejavoo Clinic ให้ได้มากที่สุด
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม ดูแลตัวเองยังไงให้ผลลัพธ์อยู่นานขึ้น?
รีแพร์ช่องคลอด ก่อน-หลังรีแพร์แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
5 อาการหลังทํารีแพร์ที่ควรระวัง หากดูแลไม่ดีส่งผลอันตรายได้
ปรึกษาเพิ่มเติม สอบถามคิว นัดจองคิว
บทความที่น่าสนใจ
ฉีดโบท็อก กินปลาร้าได้ไหม หากเผลอกินเข้าไปจะเกิดอันตรายหรือเปล่า
ฉีดโบท็อก หน้าไม่เท่ากัน ปรับสัดส่วน แก้ให้จึ้ง ทำให้ถึง ที่ Rejavoo
หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง ของกิน 4 อย่างที่ควรงด!!
หลังฉีดโบท็อก แต่งหน้าได้ไหม ต้องรอนานแค่ไหนถึงจะแต่งได้ปกติ
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช้ำม่วง เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ แก้ยังไงดี
ฟิลเลอร์ละลาย เพราะอากาศร้อน เกิดขึ้นได้มั้ย มาไขข้อสงสัยกัน!
ทำรีแพร์อยู่ได้นานไหม? อยากให้ความฟิตอยู่นานๆ ดูแลยังไงดี
ช่องคลอดหลวม หลังคลอด คุณแม่หนักใจ ทำยังไงให้ฟิตเหมือนเดิม?
ฉีด โบ ท็ อก แล้วปากเบี้ยว แก้ ยัง ไง เป็นผลข้างเคียงอันตรายที่ต้องหาหมอหรือเปล่า?